การเรียนโดยเอาชีวิตเป็นตัวตั้ง

เพื่อนผมโทรมาเล่าเรื่อง เอาลูกไปเรียนระดับอนุบาล ที่สถานรับเลี้ยงเด็กแห่งหนึ่ง ที่ใช้หลักสูตรของ วอลดอร์ฟ (Fahkwang Waldorf) เรียนแบบ เด็กเป็นศูนย์กลาง Child Center จะสอนให้ปลูกต้นไม้ ร้องเพลง วาดรูป ให้เด็กที่โตกว่าชงนมให้เด็กเล็ก เขาจะให้เด็กเริ่มเรียนวิชาการตอนอายุ 9 ขวบ ถ้าอายุยังไมถึง ก็จะให้ทำกิจกรรมต่างๆ เป็นหลัก เน้นการใช้ชีวิตร่วมกับเพื่อน รู้จักการมีสังคม เพื่อนผมบอก ลูกคนโต จากที่เคยรังแกน้อง ก็จะช่วยพ่อแม่ดูแลน้อง เริ่มเข้าใจหน้าที่ของตัวเองมากกขึ้น

.

เพื่อนเล่าต่อว่า เด็กเล็กๆ ตอนนี้ต้องกวดวิชาเข้าระดับ อนุบาล ระดับประถม มันต้องอะไรกันนักกันหนา กับเด็กตัวเล็ก

.

ผมยังไม่มีลูกเลยยังไม่ต้องคิดมากกับเรื่องเหล่านี้ ถ้ามีลูกคงให้ไปเรียนในหลักสูตรนี้ และก็จะพาลูกพูดภาษาอังกฤษ แบบเด็กสองภาษาสร้างได้ แบบให้เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ต้องไปบังคับ ถ้าเขาไม่อยากทำ

.

การเรียนแบบนี้ สำหรับ ม.ชีวิต เราจะเรียกว่า การเรียนโดยเอาชีวิตเป็นตัวตั้ง แต่เป็นหลักสูตรสำหรับผู้ใหญ่ คงต้องเรียกว่า Man Center ม.ชีวิต ใช้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางในการสร้างหลักสูตรการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนจัดระเบียบชีวิตของตนเอง ทำบัญชีครัวเรือน ทำกินทำใช้เองให้ได้ 1 ใน 4 ของการกินการใช้ทั้งหมด กินเป็นอยู่เป็น กินปลาเป็นหลัก กินผักเป็นยา จัดการการเงินและหนี้สินของตนเองได้ ช่วยตัวเองได้ คิดแก้ปัญหาของตนเองได้ คิดเป็นทำเป็น ไม่ต้องไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่น หรือรัฐบาล เมื่อช่วยตัวเองได้แล้ว ไม่มีหนี้ ไม่มีโรค ก็สามารถแบ่งปัน ช่วยเหลือคนอื่นได้

.

สังคมของเรา แข่งกันเรียน แย่งกันกิน แย่งกันอยู่ แย่งกันทำมาหากิน บริษัทคู่แข่ง ทำลายอีกบริษัท แย่งกันใช้ทรัพยากร พี่น้องต้องฆ่ากัน เพราะตกลงผลประโยชน์ในธุรกิจของครอบครัวตนเองไม่ได้ เพื่อนทำทุกอย่างเพื่อให้หน้าที่การงานของตนเองดีขึ้น ไม่ว่าจะผิดหรือถูก แม้จากเพื่อนจะกลายเป็นศัตรู

.

ความพอดี พอเพียง เป็นความสมดุลของชีวิต กินพอดี ก็ไม่เป็นโรค บริโภคพอดี ก็ไม่เป็นหนี้ ถ้าใช้ชีวิตพอดี ธรรมชาติก็ไม่ถูกทำลาย คนไม่ทำลายธรรมชาติจนสุดท้าย ธรรมชาติก็แปรปรวน และส่งผลกลับมาหามนุษย์ โลกร้อน น้ำแข็งละลาย น้ำท่วมโลก

.

เราต้องเข้าไปอยู่ในวังวนแห่งกิเลส ความละโมบ เห็นแก่ตัวแบบนี้เหรอครับ เด็กเล็ก เด็กโต ต้องเรียนเอาไปเอาตาย แข่งกัน ตั้งแต่ยังเล็ก โตขึ้นเขาก็ไม่อาจเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่น่าอยู่ได้

.

เงิน อำนาจ เมื่อมีมากแล้ว เบียดเบียนคนอื่น เอาเปรียบคนอื่น ไม่รู้จักการให้ แล้วคุณจะมาอยู่ร่วมกับคนอื่นทำไมครับ คุณก็ไปอยู่บนเกาะคนเดียวดีกว่า เพราะไม่มีใครอยากจะถูกรังแก ความเป็นมนุษย์ในทุกคนมีเท่ากัน เงิน อำนาจ ไม่ได้เป็นสิ่งที่ทำให้ใคร มีคุณค่ามากกว่าคนอื่น สังคมต้องอยู่ร่วมกัน พึ่งพาอาศัยกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อยู่ร่วมกับธรรมชาติ จึงจะเรียกได้ว่าเป็นสังคมของมนุษย์ผู้เจริญแล้ว

.

By LU KK

.

Fahkwang Waldorf Preschool and Playgroup Chiang Mai,Thailand

http://waldorfchiangmai.multiply.com/links

เด็กสองภาษาสร้างได้

http://www.oknation.net/blog/zurristic/2009/08/10/entry-1

คลิปอื่นๆ

http://www.youtube.com/watch?v=RuNhJVgDS8A

เด็กสองภาษาสร้างได้คลิบที่2/5