ในการส่งออกและนำเข้าสินค้า แต่ล่ะประเทศจะจำกัดจำนวนสินค้านำเข้าจากต่างชาติ เพื่อไม่ให้สินค้าเข้ามามากเกินไป ป้องกันไม่ให้สินค้าต่างชาติเข้ามาแย่งตลาดภายในประเทศ โดยการจำกัดโควต้าการนำเข้า ว่านำเข้ามาได้จำนวนเท่าใด มีการตั้งกำแพงภาษีกับสินค้าฟุ่มเฟือย ไม่ให้เข้ามามากเกินไป เพราะอาจส่งผลต่อการขาดดุลการค้า เพราะสินค้ามีมูลค่าสูง เช่น เครื่องประดับ รถยนต์ราคาแพง หรืออาจจะใช้ มาตรฐานคุณภาพสูง กับสินค้าพวกอาหาร เช่น กุ้งสด ไก่สด เพื่อควบคุมคุณภาพสินค้า ทำให้สินค้าต้องดีจริงๆ ถึงจะเข้าไปในประเทศนั้นได้
FTA – Free Trade Area ของอาเซีย 10 ประเทศ กับสินค้า 8,000 รายการ ที่ภาษี 0% ก็จะทำให้ไทยเรา ส่งสินค้าออกไปได้อยากเต็มที่ และต่างชาติก็ส่งสินค้าเข้ามาในไทยได้ไม่จำกัด เช่นกัน
ปาล์มน้ำมันของเราผลิตได้ 10% ของปริมาณการผลิตของอินโด และมาเลเชีย สมมุติ ถ้าสัก 20 ส่วนของอินโด มาเล ส่งเข้ามาในไทย อีก 70 ส่งไปทั่วโลก แต่ของอินโด มาเล ราคาอาจจะถูกกว่า เอาไปเอามา การใช้น้ำมันปาล์มในประเทศ อาจจะอยากจะนำเข้ามากกว่า เพราะราคาถูกกว่าของในประเทศ สว่นที่เราจะส่งออก ราคาก็แพงกว่าเขา ทำไงดีหล่ะ
หอม กระเทียม ส้ม จากจีน (มี FTA มาก่อนแล้ว) ทะลักเข้าในไทย เจ้าของสวนส้ม ขายส้มขาดทุน เพราะส้มจากจีนถูกกว่า ปาล์มน้ำมันก็ต้องเจอปัญหาเดียวกัน
ประเทศที่ผลิตสินค้าได้มากกว่า ทำให้ราคาถูกกว่า แล้วเรามีอะไรที่ผลิตได้มากกว่าชาติอื่น และราคาถูกกว่า ข้าวเราไม่ถูกกว่าเวียดนามแน่นอน ถึงแม้จะผลิตได้มากกกว่า ส่วนนึงเป็นเพราะผลผลิตต่อไร่ ของเราต่ำกว่าเวียดนาม ต้นทุนต่อไร่จึงสูงกว่า ที่เราผลิตได้มากกว่าเพราะมีพื้นที่ปลูกข้าวมากกว่า ตายทั้งขึ้นทั้งล่อง
มันเหมือนแลกหมัดกัน เราต่อย เขาก็ต่อย ใครอึดกว่า ถึงจะรอด อยู่ที่หมัดใครหนักกว่ากัน
เกษตรกรที่ปลูกปาล์มอย่างเดียวในพื้นที่ทั้งหมดของตัวเอง แบบพืชเชิงเดี่ยว ควรเหลือที่ไว้ปลูกข้าวบ้างก็จะดีนะครับ เพราะถ้าราคาปาล์มตก คุณก็ยังมีข้าวกิน ไม่ต้องเอาเงินที่ขายปาล์มได้แล้วขาดทุนไปซื้อข้าวกิน รวมทั้งสวนส้ม ผู้ปลูกอ้อย มันสำปะหลัง เราควรมีพื้นที่ไร่นาสวนผสมด้วยครับ เพื่อไม่ต้องยึดติดกับการซื้อข้าวกินด้วยเงิน เพราะเรามีอาหารอยู่ในสวนในนาของเราแล้ว
ถึงตอนนี้รัฐบาล ช่วยไม่ทันแน่นอนครับ เพราะไม่ได้ทำความเข้าใจกับเกษตรกรเลย ไม่พูดพร้ำทำเพลง ก็ทำ FTA เลย คนที่ตายก็เป็นเกษตรกร แหละครับ
ตอนที่เรายังมีกำแพงภาษี และโควตาสินค้า มันก็ยังพอต้านระบบทุนนิยมได้บ้าง พอมี FTV ก็เท่ากับติดปีกให้กับทุนนิยม แค่ทุนนิยม modern trade ก็ทำเอาโชว์ห่วยตายกันเป็นแถวๆ แล้ว FTV มาอีกก็ไม่ใช่แค่ตายครับ สูญพันธุ์กันเลยหล่ะทีนี้
แล้วใครจะช่วยเราได้หล่ะครับ นอกจากตัวเราเอง ต้องปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงครับ
เศรษฐกิจพอเพียง คือ ทำกินเองใช้เองได้บ้าง ไม่ต้องใช้เงินซื้อทั้งหมด ทำได้สัก 1 ใน 4 ของการกินการอยู่ทั้งหมดของตัวเอง ต้นทุนชีวิตลดลง มีเงินเหลือบ้างพอที่จะเผชิญกับความเสี่ยงในอนาคตได้ ถ้าไม่มีเงิน ก็ยังมีข้าว มีปลา ที่อยู่หลังบ้านตัวเอง
ใครใคร่ค้าก็ค้า ใครทำได้มากก็ขายมาก ใครทำได้น้อยก็ถอยไป
ไร่นาสวนผสม
.. ..
ทดสอบ
ตอบลบแสดงความคิดเห็นได้น่ะครับ