คนเมืองพอเพียง โมเดล

คนชุมชนเมืองพอเพียง โมเดล

คนที่อยู่ในชุมชนเมืองมีพื้นที่ใช้สอยจำกัด ลองมาดูการใช้พื้นที่น้อยรอบบ้านคุณทำให้ชีวิตพอเพียงได้

เริ่มที่การปลูกผักในกระถาง ทำได้ง่ายๆ ครับ หาซื้อเมล็ดผักได้ที่ร้านเกษตรทั่วไป หรือในงานเกษตร เช่น ผักกะเพรา ผักกาด มะเขือ พริก มะนาว ตะไคร้ (-600)

มะนาวลูกละ 4 บาท, น้ำตะไคร้ ช่วยลดการปวดท้องเวลามีรอบเดือน

ปลูกพืชสมุนไพร เช่น ฟ้าทะลายโจร ว่านหางจระเข้ หญ้าหนาดแมว

ปลูกเห็ดในโอ่ง ปกติต้องมีโรงเรือน ก็ซื้อก้อนเพาะเห็ดมาเรียงในโอ่งได้เลย

การปลูกเห็ดในโอ่ง




เลี้ยงปลาในบ่อดิน หรือ บ่อซีเมนต์ ประมาณ 1.5x2.5 เมตร ลดการซื้อเนื้อสัตว์ไปส่วนนึง (-500)
ที่ภาคใต้ เขามีบ่อแบบนี้ไว้ทำอาหารให้ทหารได้รับประทานกัน
ตัวอย่างบ่อปลาดุก

แล้วเอาทั้งหมดที่เลี้ยง ที่ปลูกมาทำอาหารกินเอง โดยใช้พื้นที่ไม่มาก

ผสมน้ำยาในครัวเรือนใช้เอง ไม่ว่าจะเป็น น้ำยาล้างจาน น้ำยาถูพื้น สบูเหลวหรือก้อน น้ำยาปรับผ้านุ่ม แชมพู ครีมนวดผม น้ำหอม ครีมสมุนไพร เจลล้างมือ

น้ำยาล้างจาน 100 บาท ผสมได้ 4 ลิตร ถ้าใช้ 1 เดือนต่อลิตร จะคิดเป็น 25 บาท ถ้าผสมใช้เองทั้งหมดโดยประมาณ 25x7 น้ำยา = 175 บาท

ถ้าทำน้ำยาอเนกประสงค์สูตรน้ำซาวข้าว ไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะเอาน้ำซาวข้าวมาทำ

น้ำยาแต่ละชนิดราคาไม่เท่ากัน เป็นว่าน้ำยาทั้งหมดผสมใช้เองไม่เกิน 300 บาท ต่อเดือน (-500)

ร้านปางสมุนไพร - จำหน่ายน้ำยาผสมเอง

ปั่นจักรยาน หรือขี่มอไซด์ ไปตลาด และที่จุดหมายไม่ไกล ผมมีรถยนต์แต่ไม่มีเงินเติมน้ำมัน ก็จะใช้มอไซด์เพื่อลดค่าใช้จ่าย รถยนต์เติมครั้งละ 500 บาท มอไซด์เติม 100 บาท (-500/ด)

โทรศัพท์นาทีละ 25 สตางค์ 100 บาท โทรได้ 400 นาที เราให้หัวหน้านักศึกษาใช้ เพื่อติดต่อประสานงานเพื่อนนักศึกษาด้วยกัน ก็ประหยัดไปได้มากทีเดียว (-200 จากเดิม)

ลดการซื้อหวย ลดบุหรี เหล้า ลดการช็อปปิ้ง ลดการเปิดแอร์ (-1,000) สำหรับผมจะลดไปได้ 2,000 บาท ถ้าไม่ไปเที่ยวกินนอกบ้าน

ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ลดการเจ็บป่วย ลดการกินยาและไปหาหมอ (-400)

การดืมน้ำโมเลกุลเล็ก ทำให้ร่างกายแข็งแรงจากการได้รับน้ำเพียงพอในเซลล์ และอวัยวะต่างๆ

- น้ำ MRET

ในวงเล็บคือค่าใช้จ่ายต่อเดือนที่ลดลงไป โดยประมาณ

ประมาณการ รวมลดค่าใช้จ่าย 3,700 บาทต่อเดือน

ถ้าคุณทำได้ทั้งหมดนี้อาจจะประหยัดค่าใช้จ่ายได้ 4,000-5,000 บาท เลยทีเดียว ไม่ลองไม่รู้

นอกจากนี้ ยังมี น้ำมันไบโอดีเซล แก๊สชีวภาพจากมูลสัตว์ใช้หุงต้ม การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ที่จะเป็นพลังงานทดแทน ลดค่าใช้จ่าย ลดโลกร้อนได้


By LU KK


--------------การปลูกพืชไม่ใช้ดิน

ตัวอย่างการปลูกผักสวนครัวแบบต่างๆ


--------กระถางยางรถยนต์

กาแฟดอยช้าง

กาแฟดอยช้าง

ชื่อ "กาแฟดอยช้าง" แม้จะไม่เป็นที่คุ้นหูนักสำหรับนักจิบกาแฟชาวไทยทั่วไป แต่ในแวดวงคอกาแฟในต่างประเทศแล้ว "กาแฟดอยช้าง" ถือเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของคนไทยและเป็น "อีโก้" (ในที่นี้ ขอหมายถึงความภาคภูมิใจ) ของชาวอีก้อกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งในจังหวัดเหนือสุดของประเทศ ผู้ร่วมกันรังสรรค์กาแฟรสเลิศประดับเวทีกาแฟโลกไว้ได้เป็นผลสำเร็จ

ภูเขาดอยช้าง อยู่ห่างจากตัวเมืองของจังหวัดเชียงรายไปประมาณ 40 นาที และจากเชิงเขาขึ้นดอย หากไปทางลัดจะใช้เวลาอีกเพียง 1 ชั่วโมงเศษๆ เท่านั้น แม้หนทางไต่ขึ้นดอยจะค่อนข้างขรุขระอยู่สักหน่อย ในวันที่คณะของผู้เขียนเดินทางไปสัมภาษณ์กาแฟดอยช้างนั้น "อาเดล" หนึ่งในผู้ก่อตั้งกิจการได้ให้ความอนุเคราะห์เดินทางมารับพวกเราขึ้นดอย จากร้านกาแฟดอยช้างเล็กๆ ในตัวเมือง ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามเป็นธรรมชาติ จากฝีมือและไอเดียของสมาชิกผู้ปลูกกาแฟดอยช้างเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาสถาปนิกให้สิ้นเปลือง

กว่า 2 ชั่วโมงในรถกระบะระหว่างทางขึ้นดอย อาเดลเล่าถึงความเป็นมาของกาแฟดอยช้าง รวมทั้งการฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ร่วมกันของชาวอาข่าหรืออีก้อบนดอย ซึ่งรวมถึงอาเดลเอง กว่าจะมาเป็นกาแฟดอยช้างที่ทำชื่อเสียงระดับโลกให้แก่ชุมชนชาวอีก้อและประเทศไทยในปัจจุบัน

"ชาวดอยช้างเริ่มปลูกกาแฟมาตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ.2526 ก็ปลูกกันมาเรื่อยๆ แล้วขายให้พ่อค้าคนกลาง แม้ราคา ไม่สู้จะดีนัก แต่ก็ทำๆ กันไป แต่เมื่อกว่า 8 ปีที่แล้ว ชาวบ้านถูกพ่อค้าที่มารับซื้อกาแฟถึงบนดอยกดราคาอย่างหนัก กิโลหนึ่งให้ราคาแค่ 17-20 บาท ชาวบ้านต้องทนขายขาดทุน"

"ชาวบ้านเองซึ่งเป็นชาวเขาเผ่าอีก้อ และไม่มีบัตรประชาชนในขณะนั้น ไม่สามารถจะลงจากดอยมาขายกาแฟเองได้ เพราะจะถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐจับในฐานที่ไม่มีบัตร (ประชาชน) เพราะถูกมองว่าไม่ใช่คนไทย ผมเองในฐานะผู้ใหญ่บ้านจึงลงจากดอยมาหาพี่วิชา เพื่อปรึกษาว่าจะทำอย่างไรดีกับไร่กาแฟของชาวบ้านเกือบ 600 ไร่บนดอย และทำอย่างไรให้ชาวบ้านมีความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้"

"พี่วิชา" หรือวิชา พรหมยงค์ ชายร่างเล็ก ผมเปียท้ายทอย คือประธานบริษัทกาแฟดอยช้าง และเป็นหนึ่งในผู้ร่วม บุกเบิกก่อตั้งกิจการกาแฟดอยช้างมาตั้งแต่แรกเริ่ม วิชารอต้อนรับคณะของผู้เขียนอยู่บนดอย พร้อมกับ "มิกะ" หรือ "หมี่ก๊า" สาวอีก้อหน้าตาใจดี น้องสาวของอาเดล ผู้ซึ่งผู้เขียนเริ่มติดต่อด้วยเพื่อขอสัมภาษณ์เรื่องกิจการของกาแฟดอยช้างและโครงการ แฟร์เทรดที่ทางบริษัทกำลังสมัครขอเข้าเป็นสมาชิกอยู่

วิชาเล่าว่า หลังจากที่อาเดลเข้ามาปรึกษาให้ช่วยแก้ปัญหาให้กับชาวบ้าน ในเรื่องการถูกกดราคารับซื้อกาแฟแล้ว ตนได้ใช้เวลากว่า 7 เดือนในการศึกษาเรื่องกาแฟ จนได้ข้อสรุปว่า การจะหลีกเลี่ยงการถูกกดราคานั้น ชาวบ้านต้องเพิ่มกำลังผลิตเป็นสองถึงสามพันไร่ เพื่อสร้างปริมาณของกาแฟให้มากพอที่จะมีอำนาจไปต่อรองกับพ่อค้า นอกจากนี้คุณภาพของกาแฟก็เป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นกระบวน การปรับเปลี่ยนการผลิตและควบคุมคุณภาพของเมล็ดกาแฟ รวมทั้งการสร้างความเข้มแข็งให้กับชาวบ้านและชุมชนดอยช้าง จึงได้เริ่มขึ้น

อ่านต่อ

ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่ว่า ทำจากเล็กไปใหญ่ จากในไปสู่นอก

กาแฟดอยช้างเกิดจากชาวเขา ที่เชื่อในแนวทางของในหลวง ทำตามวิถีชีวิตของตนเอง ทำด้วยความตั้งใจ ใส่ใจ ที่จะให้ผลิตผลของตนเองออกมาดี ไม่ทำเกินกำลัง จากคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ดี จึงออกไปสู่ตลาดภายนอกได้ด้วยตัวของสินค้าเอง จากชุมชนของชาวเขา สินค้าออกไปในตลาดทั่วประเทศ จากในชุมชนออกไปนอกชุมชน และส่งออกไปต่างประเทศด้วย

..

เครื่องสีข้าว ชุมชน

เครื่องสีข้าว สำหรับโรงสีชุมชน

แยกปลายข้าว กับเม็ดข้าว
แยกลำหยาบ ลำระเอียด
ไม่มีเครื่องใดทำได้ในราคาเท่านี้

1. ราคา 120,000 บาท

-มอเตอร์ 10 แรง
-สีได้ 3 ตัน/วัน


2. ราคา 75,000 บาท

-สีได้ 1.5 ตัน/วัน
-ขนาด 1 หิน 24 นิ้ว
-มอเตอร์ 7.5 แรงม้า ติดลูกถ่วง ช่วยประหยัดไฟฟ้า
-3 ช่องขัดข้าว ยาง 6 เส้น
-ตัวเครื่อง กxยxส 160x175x230
-กระบะรับข้าวเปลือกอยู่ในระดับ ที่สะดวกในการใช้งาน
ใช้สายพานแบบร่อง ทำให้เครื่องเดินเรียบ การใช้งานทนทานกว่า


ติดต่อ
อุเทนมิลเลอร์ : 089-570-1124, 086-053-8663

รับออกแบบและสร้างเครื่องจักรกลตามต้องการ เช่น เครื่องบดขวดแก้ว, เครื่องล้างขวด

ชุดผสมน้ำยาล้างจานสูตรเข้มข้น

ร้านปางแก้วสมุนไพร
จำหน่าย ผลิตภัณฑ์สมุนไพร สบู แชมพู มีชุดผสมเอง
บริการจัดส่งทั่วประเทศ

http://www.parngkhaw.com/shop/
โทร. 02-375-8513

ต้นกล้าฯ ไปดูงาน

โครงการต้นกล้าอาชีพ หลักสูตรวิสาหกิจชุมชน ศรร.นครขอนแก่น ไปดูงานที่
บ้านคำปลาหลาย ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น

แม่นิต หนูพวก ด้วยความรักที่มีต่อสามีและลูก นำพาสามีหลุดพ้นจากการพนันและปลดหนี้ได้

มีสามีติดการพนัน จะไปเล่นตามงานศพ บางทีเล่นเป็นอาทิตย์ไม่กลับบ้าน เล่นพนันตั้งแต่ยังไม่มีลูก จนมีลูกสามคน ก็ยังไม่เลิก และทำให้เกิดหนี้กับ ธ.ก.ส. 80,000 บาท เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว

วันนนึงมีหมอจากโรงพยาบาล ชวนแม่นิตไปดูงานด้านเกษตรกับปราชญ์ชาวบ้าน

แม่นิตเริ่มลองปลูกพืชผักสวนครัว พริก มะเขือ แตง กล้วย และสะเดา พอเริ่มมีมากก็นำไปขาย เงินที่เหลือจากการใช้จ่ายก็หยอดออมสินไว้ จนวันนึงเต็มกระบุก จึงเอาออกมานับได้ 3,700 บาท แม่นิตเรียก พ่อเกษม สามีให้มาดู พ่อเกษมก็สงสัยว่าแค่ขายผักสวนครัวมีเงินเก็บได้ยังไง

จากปลูก 1 ไร่ หลังจากที่พ่อเกษมเห็นว่าการปลูกพืชผักทำให้มีรายได้ จากที่ไม่เคยช่วยแม่นิตทำเลย จึงได้มาช่วยแม่นิตทำจน เพิ่มเป็น 3 ไร่ และสามารถปลดหนี้ได้หมด และเลิกเล่นการพนัน และทำไรนาสวนผสมถึงวันนี้ 14 ไร่ จากที่ดินทั้งหมด 29 ไร่

ปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก

บ่อปลาดุก ขนาดเล็ก บ้านที่มีพื้นที่น้อยก็ทำได้

บ่อขนาด 1.5x2.5 เมตร ลึก 60 ซ.ม. หลังจากขุดบ่อแล้ว อัดก้นบ่อให้แน่น นำเอามูลวัวใส่ลงไปในบ่อ แล้วใส่น้ำประปาลงไป พอน้ำซึมลดระดับลงไป เติมน้ำลงไปให้เต็มบ่อ จนระดับน้ำอยู่ตัว แล้วจึงปล่อยลูกปลาดุกลงไป มูลวัวจะทำให้เกิดตะไคร่ ปลูกพืชรอบบ่อ ช่วยให้สภาพแวดล้อมเหมาะสมกับปลา

คุณพ่อถาวร สรรสมบัติ ศูนย์เรียนรู้บ้านคำปลาหลาย

ด้านหน้าหมู่บ้านมีป้ายว่า หมู่บ้านมหัศจรรย์ พ่อถาวรบอกว่าเป็นเพราะ
- ชาวบ้านไม่มีหนี้ทุกหลังคาเรือน
- มีแหล่งอาหาร – ไร่นา พืชผัก หมู เห็ด เป็ด ไก่
- มีไม้ยืนต้นจากการปลูก 10 ต้นต่อหลังคาเรือนทุกปี

ชาวบ้านหลุดพ้นจากความยากจนได้ด้วย การทำไรนาสวนผสม ไม่ปลูกอ้อย มันสำปะหลัง แบบพืชเชิงเดี่ยวที่เคยทำมา การทำบัญชีครัวเรือน เลิกเล่นการพนัน และเลิกเหล้า

มาร์ติน วิลเลอร์ จากประเทศอังกฤษ

ชาว ม.ชีวิต จะรู้จักกันดี มาร์ติน ในวันนี้อายุ 48 ปี อยู่เมืองไทยมา 19 ปี พบรักกับภรรยาคนไทยที่กรุงเทพ มีลูกสามคน จากเพียงแค่ต้องการมาเที่ยวเมืองไทยในตอนนั้น

นักศึกษาถามว่า มาติน อยากกลับไปอยู่อั’งกฤษหรือป่าว

มาร์ตินบอก จ้างก็ไม่กลับ อยู่เมืองไทยสบายดีแล้ว ถ้ากลับไปก็ไม่มีที่อยู่ ต้องไปขอใช้สวัสดิการเพื่อขอที่อยู่ชั่วคราว ถ้าเอาลูกไปด้วยลูกก็ต้องลำบากและไม่มีชีวิตที่ดีเหมือนอยู่เมืองไทย และภาษีขั้นต่ำที่ต้องจ่ายสำหรับผู้มีรายได้คือ 25% แม้กระทั้งดูทีวีก็ต้องเสียภาษี

ผมมีที่ดิน 47 ไร่ มีกินมีใช้อย่างมีความสุข ได้กินอาหารที่ปลอดสารพิษ ถ้าอยู่อังกฤษต้องซื้อกินราคาแพงด้วย ที่อังกฤษ พิซซ่าและฟาดฟู๊ดเป็นอาหารขยะที่คนรายได้น้อยเขากินกัน ผมชอบไข่มดแดงมากที่สุด


ถ้าคนที่ไปชุมนุมที่กรุงเทพ เห็นความสำคัญของทรัพยากรที่ตัวเองมี ก็จะไม่ต้องไปร่วมชุมนุมให้มันวุ่นวาย

มาร์ติน เล่าเป็นภาษาอีสาน เพราะพูดภาษาไทยไม่เก่ง



--------------ขอลายเซ็นกันใหญ่

------------ บ่อปลาดุก แบบซีเมนต์ ของพ่อถาวร

แม่นิต โทร. 081-471-6628, ค้างคืนได้ด้วย
พ่อถาวร โทร. 089-279-1341

องค์กรเครือข่ายงดเหล้า

องค์กรเครือข่ายงดเหล้า

ม.ชีวิตขอนแก่น ร่วมประชุมกับ องค์กรเครือข่ายงดเหล้า ในเรื่อง การบูรณาการรณรงค์ เหล้า บุหรี่ และอุบัติเหตุ

โดยมีเครือข่ายจาก 8 จังหวัด คือ เชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น สุรินทร์ จันทบุรี สิงห์บุรี ราชบุรี และสุราษฏร์ธานี

สิ่งที่น่าสนใจคือ พิษณุโลก ราชบุรี เชียงใหม่ เป็นเครือข่ายของเยาวชนที่เป็นผู้ทำกิจกรรมการรณรงค์ด้วยกลุ่มเยาวชนของเขาเอง ทำทุกขั้นตอนเองหมด เป็นเรื่องน่าชืนชมมาก ที่เรามีเยาวชนที่เก่งและทำประโยชน์เพื่อสังคมได้ในระดับนี้ ส่วนเครือข่ายจังหวัดอื่นก็จะมีเยาวชนและผู้ใหญ่ร่วมกันทำงาน

บุคคลที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้หลากหลายมาก มีทั้ง ตำรวจ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข นายแพทย์ ประชาชนอาสา อาสาสมัครกู้ภัย เครือข่ายรณรงค์บุหรี่ อาจารย์ และเยาวชน โดยมี สสส. เป็นผู้สนับสนุนโครงการ




การทำเจลล้างมือ

(เอามาจากทีวี)

ส่วนผสม
- เจลใส่ผม 50 cc
- แอลกอฮอล์ 15 cc
- โทนเนอร์ (ผู้เขียนเพิ่มเอง) 10 cc

วิธีทำ
- นำเจลมาใส่ในขวดที่จะบรรจุ หรือผสมในถ้วยชาม เพื่อสะดวกในการผสม
- เทแอลกอฮอล์ลงไป
- และเทโทนเนอร์ลงไป คนให้เข้ากัน
ต้องการให้ข้นมากน้อย ก็เพิ่มลดปริมาณ แอลกอฮอล์ และ โทนเนอร์ ตามต้องการ

ราคาของเจลล้างมือในท้องตลาดแพงอยู่นะครับ ขวดนึงก็ราคาเป็นร้อย ลองทำใช้เองดู เพราะแอลกอฮอรล์มีใช้กันในบ้านอยู่แล้ว เจลใส่ผมก็ขอจากน้องชายหรือคุณพ่อบ้าน

ส่วนการฆ่าเชื้อโรค ฆ่าได้แน่นอนอยู่แล้วครับด้วยแอลกอฮอล์ ถ้าอยากจะให้มีผลมากขึ้น ก็เพิ่มประมาณแอลกอฮอล์ให้มากขึ้น จากกลิ่นของเจลที่ทำเองถ้าได้กลิ่นของแอลกอฮอรล์ก็น่าจะใช้ได้ผลดีแล้วครับ ส่วนกลิ่นหอมจะได้จากเจลใส่ผม

สงกรานต์ขอนแก่น สร้างสถิติโลกเวฟมนุษย์
ถนนข้าวเหนียว สงกรานต์ปลอดเหล้า

ไข่เค็ม – ต้นกล้าฯ

ไข่เค็ม

ส่วนผสม
- น้ำประปาที่ทิ้งไว้ 1 เดือน 450cc
- ดินสอพอง
- เกลือทะเล 8 ขีด
- แกลบดำแบบจืด ถ้าเป็นแกลบเค็ม จะทำให้ไข่เค็ม เค็มเกินไป
- ไข่เป็ด 5 ถาด

ถ้าไม่ใช้น้ำประปาที่ทิ้งไว้ 1 เดือน จะทำให้ไข่เน่าได้

สูตรนี้เป็นของ คุณพ่อแดง นักศึกษา ม.ชีวิต

วิธีทำ

-ล้างไข่ด้วยน้ำสะอาด หรือ น้ำยาล้างจานสูตรน้ำซาวข้าว จะล้างออกง่ายกว่าน้ำเปล่า
ถ้าล้างไม่สะอาด อาจจะมีกลิ้นขี้เป็ดเข้าไปในไข่ หรือถ้าล้างด้วยผงซักฟอก กลิ่นก็อาจจะเข้าไปเช่นกัน
-เทน้ำประปาลงกะละมัง
-เทเกลือ
-นำดินสอพอลงมาบดรวมกันจนข้น
-นำไข่ที่ล้างแล้ว มาพอกด้วยส่วนผสมดินสอพอง ถ้าจะใส่ ใบเตย ใบมะกูด ให้ใสลงไปผสมกับดินสอพอง
-นำมาคลุกในแกลบ
-เก็บไว้ 30 วัน จึงนำไปต้มรับประทานได้ หรือ 15 วัน นำไปทอดไข่ดาวได้

..

น้ำยาล้างจานสูตรน้ำซาวข้าว

เป็นน้ำยาอเนกประสงค์ ใช้ล้างจาน ถูพื้น ล้างห้องน้ำ เทลงชักโคกย่อยสลายขจัดกลิ่น ให้ไก่หรือหมู กินแทนน้ำได้

ส่วนผสม
- น้ำซาวข้าว 2 ลิตร
- กากน้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำ EM ช้อนโต๊ะ (ได้จากการหมักคราวที่แล้ว - น้ำหมักชีวภาพ (EM))

วิธีทำ
- นำส่วนผสมทั้งหมดคนให้เข้ากัน
- ถ้าทำมากกว่านี้ก็เพิ่มตามสัดส่วน ครับ

วิธีทำกากน้ำตาล

ถ้าไม่ต้องการซื้อ
- ต้นน้ำตาลทรายแดงกับน้ำ 1 ลิตร เคี่ยวจนข้น

รดน้ำดำหัว สงกรานต์ ไม่รู้ว่าอาจารย์หรือนักศึกษา ใครจะรดใครก่อนดี

โครงงานเด็กงดเหล้า

โครงการอบรมแกนนำเด็กเยาวชนนักรณรงค์งดเหล้าในชุมชน แบบเพื่อนช่วยเพื่อน

โครงงานของนักศึกษานี้ได้รับทุนสนับสนุน 38,000 บาท จากเทศบาลนครขอนแก่น ในการจัดอบรมเยาวชน 20 คน

เยาวชนที่ผ่านการอบรม จะมีกิจกกรรมการลงพื้นที่ในชุมชนของตนเองเดือนละครั้ง และถ้าเจอเพื่อนที่เริ่มที่จะดื่มเหล้า เยาวชนกลุ่มนี้จะให้คำปรึกษา แนะนำเพื่อให้เพื่อนและเยาวชนคนอื่นไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเหล้า หรืองดให้น้อยลง

นอกจากนี้เยาวชนงดเหล้า จะเข้าร่วมทำกิจกรรมอื่นกับเครือข่ายงดเหล้าของ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ในสถานที่และเทศกาลต่างๆ

สบูก้อน

ส่วนผสม
-กลีเซอลีน 250 กรัม
-น้ำหอม 10 cc
-สี 5 cc

วิธีทำ
นำกลีเซอลีนไปต้มให้ละลาย สามารถผสมน้ำเพิ่มได้ถ้าไม่ต้องการให้เข้มข้นเกินไป
แล้วนำมาใส่น้ำหอมและสี ทิ้งไว้ให้เย็น
เมื่อส่วนผสมแข็งตัว ใช้มีดตัดให้เป็นก้อนตามต้องการ





น้ำยาล้างจานสูตร ม.ชีวิต

เป็นสูตรจากหนังสือของ ม.ชีวิต

ส่วนผสม
- N70 (หัวแชมพู) 1 ก.ก.
- F24 (สารขจัดคราบมัน) ½ ก.ก.
- เกลือ 1 ก.ก.

วิธีทำ
1. ต้มเกลือในน้ำ 3 ลิตร จนเกลือละลายหมด แล้วทิ้งไว้ให้เย็น
2. เอา N70 ผสมกับ F24 กวนให้เข้ากันประมาณ 10 นาที
3. ค่อยๆ เทเกลือลงไปทีละน้อย แล้วกวนให้เข้ากันจนหมด
4. แล้วเติมน้ำลงไปและกวนเรื่อยๆ โดยใช้น้ำ 10-15 ลิตร
5. อาจจะใช้น้ำผลไม้เปรี้ยวหรือน้ำหมักจากผลไม้เปรี้ยวแทนน้ำบางส่วนได้

น้ำยาล้างจานสูตรเคมี

น้ำยาล้างจานสูตรเคมี


ส่วนผสม

1. 28CT 1 กก.
2. ผงฟอง 1 ขีด
3. ผงข้น 2 ขีด
4. F-24 150 กรัม
5. กรดมะนาว 50 กรัม
6. น้ำหอม 10 ซีซี
7. สีส้ม 5 กรัม
8. น้ำสะอาด 3 ลิตร


วิธีทำ

1. นำ ผงฟอง มาละลายน้ำสะอาด 3ลิตร คนให้ละลายให้หมด
2. ใส่ 28CT คนให้เข้ากัน
3. ใส่ F24 และกรดมะนาว คนให้เข้ากัน
4. ใส่น้ำหอม และสี คนให้เข้ากัน
5. ค่อยๆ เติม ผงข้น ค่อยๆ ใส่ทีละน้อยจนข้นตามต้องการ
ผงข้นถ้าใส่มากเกินไป น้ำยาจะเหลว เพราะใส่จนอิ่มตัว

-กรดมะนาว และสีส้ม จะทำให้ได้น้ำยาสีเหลือง และมีกลิ่นมะนาว เหมือนของท้องตลาด

-ทิ้งไว้สักวันนึง เพื่อให้ส่วนผสมละลายเข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกัน

-ต้องละลายสารในน้ำทีละตัว ถ้าใส่พร้อมกันหมด สารทั้งหมดจะไม่ละลายน้ำและจับตัวเป็นก้อน

ส่วนผสมนี้จะได้น้ำยาล้างจานประมาณ 4 ลิตร ถ้าต้องการผสมมากกว่านี้ต้องเทียบสัดส่วนเอาครับ หรือ ผสมทีละ 4 ลิตรก็ได้ เพราะถ้าผสมมากๆ อาจจะไม่เข้ากันได้ดีเมื่อน้ำยาเริ่มจะข้น เพราะต้องออกแรงคนมากขึ้นและนานขึ้น

ส่วนผสมขนาด 4 ลิตรนี้ ร้านเขาขาย 100 บาท และตวงไว้ให้แล้วเป็นชุด ผู้สนใจที่อยู่ใกล้ จ.ขอนแก่น ซื้อได้ที่ร้านเคมีภัณฑ์ ข้างวิลล่า สี่แยกโรงแรมแก่นอิน

-น้ำยาล้างจานสำเร็จ 100 cc ประมาณ 8 บาท (รวมขวด)
-แบบผสมเอง 100 cc อยู่ที่ 2.5 บาท
ไม่ทราบราคาขวดพลาสติก คงไม่ถึง 5 บาท


น้ำยาล้างจานมีราคาต่างกัน เพราะส่วนผสมที่ต่างกัน
- สารเคมีแบบย่อยสลายได้ จะมีราคาแพงกว่าสารเคมีปกติ
- น้ำยาล้างจานที่ผสมแบบสูตรเข้มข้น ราคาก็จะแพงกว่าแบบปกติ

น้ำยาล้างจานที่ใช้สารแบบย่อยสลายได้ จะปลอดภัยจากสารตกค้างที่อยู่บนจานชาม สามารถล้างขวดนมเด็กได้ และไม่ตกค้างเมื่อถูกปล่อยไปสู่คลองระบายน้ำ จะย่อยสลายไปไม่เป็นมลพิษกับสิ่งแวดล้อม


สามารถนำเอาน้ำยาล้างจานสูตรเคมี มาผสมกับ สูตรน้ำซาวข้าว ก็ได้
อาจจะเป็น 1 ส่วน สูตรเคมี ต่อ 5 ส่วน สูตรซาวข้าว
เพื่อลดการใช้สารเคมี แต่ไม่สะดวกในการใช้สูตรซาวข้าวที่ไม่มีฟอง


· น้ำยาล้างจาน สูตรน้ำซาวข้าว

-------ภาพจาก Google

แหนมเห็ด – ต้นกล้าฯ

แหนมเห็ด

ส่วนผสม
-เห็ดน้าฟ้า 3 ก.ก.
-กระเทียม 1/2 ทัพพี
-ข้าวเหนียว 1 ทัพพี
-เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ

นำเห็ดที่ต้มแล้ว มาคลุกให้เข้ากันกับส่วนผสมทั้งหมด

ห่อแหนมด้วยถุงพาสติกก่อน แลวจึงห่อด้วยใบตอง และมัดยาง

ทิ้งไว้หนึ่งวัน ให้มีรสเปรี้ยว

ก็สามารถรับประทานได้