ข่าวประชาสัมพันธ์ นักศึกษา ป.ตรี

-- หลักสูตรระดับปริญญาตรี สาขาสหวิทยาการเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น สาขาสุขภาพชุมชน และ สาขาการจัดการการเกษตรยั่งยืน เรียน 3 ปี จบ รับผู้จบ ม.6 ทุกสาขา ไม่จำกัดอายุ 60ปี ก็เรียนได้ ผู้ที่ยังไม่จบ ม.6 สามารถลงทะเบียนเรียนได้ สองรายวิชา

-- หลักสูตร ป.ตรี -- หลักสูตรแบบบูรณาการ เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม จิตใจ สุขภาพ สิ่งแวดล้อม เอาชีวิตเป็นตัวตั้ง หลักสูตรสำหรับผู้ใหญ่ แห่งเดียวของไทย ไม่เรียนแบบท่องหนังสือไปสอบ

--- ผู้ที่สนใจเรียนกับ ม.ชีวิต สามารถแจ้งความจำนงเพื่อจะสมัครเป็นนักศึกษาใหม่ ปี 2558 ที่ศูนย์ขอนแก่น โทร.087-823-3149 ทั้ง ป.ตรี และ ป.โท

---------------------------------

ข่าวประชาสัมพันธ์ นักศึกษา ป.โท

-- หลักสูตร ป.โท -- หลักสูตรที่ให้คิดแบบเชิงระบบ (System Thinking) ขับเคลื่อนทั้งองคาพยพ (Organism) สร้างนักยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน (Sustainable)

------ต้องการเรียน ป.โท ที่ จ.มหาสารคาม โทร.082-315-3500

-- ผู้สนใจศึกษาต่อ สามารถแจ้งความจำนงไว้ได้โดยกรอก ชื่อ-สกุล, อีเมล์, เบอร์โทรศัพท์ ที่ช่องส่งเมล์ ด้านขวามือ



- จ.ขอนแก่น เปิดศูนย์ที่ อ.เมือง,เขาสวนกวาง,กระนวน,ภูเวียง,ภูผาม่าน เท่านั้น จังหวัดใกล้เคียงได้แก่ มหาสารคาม, ร้อยเอ็ด, สกลนคร, นครราชสีมา, ชัยภูมิ-อ.คอนสาร เท่านั้น ที่อื่นนอกจากนี้ไม่ใช่ศูนย์ของ ม.ชีวิต ดูข้อมูลเพิ่มเติมของสำนักงานใหญ่ และหมายเลขโทรศัพท์ของศูนย์อื่นทั่วประเทศได้ที่แถบด้านขวามมือ


เพลงนิทานแผ่นดิน
ศ.นพ.ประเวศ วะสี แนะนำ สถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชน

facebook

facebook
คลิ๊ก: ข่าวสารและภาพกิจกรรม ป.โท ขอนแก่น-ชัยภูมิ

วันพุธที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

สวัสดีบางกอก

Sawasdee Bangkok

โครงการหนังสั้น ถ่ายทอดเรื่องราวในกรุงเทพ โดยความร่วมมือระหว่าง กรุงเทพมหานคร และ ทีวีไทย ซึ่งได้ผู้กำกับและดาราแถวหน้าของบ้านเรามาช่วยกันทำ ตามแนวทางของตนเอง

ผมได้ดูทั้งหมดที่ด้านล่างแล้ว ชอบเรื่อง Silence ของคุณ เป็นเอก รัตนเรื่อง โดยดัดแปลงจากเรื่องจริง ที่มีชายคนนึงรถเสีย แล้วมีแท็กซี่คันนึงเข้ามาช่วย ชายคนนั้นให้เงินกับแท๊กซี่ แต่เขาไม่รับ และพูดว่า ‘ผมต้องการเพียง ให้คุณทำแบบนี้ให้กับคนอื่นแบบที่ผมทำ’

ลองชมใน vdo ครับ สะกิดใจคุณแน่นอน

คุณเป็นเอก บอกว่า ‘กรุงเทพ เป็นเมืองที่น่าเกลียดที่สุด......สิ่งที่ผม Enjoy ที่สุด คือ การได้เดินกินอาหารข้างทาง’

Sawasdee Bangkok สวัสดีบางกอก - Silence 27.7.10


Sawasdee Bangkok สวัสดีบางกอก - มาหานคร 19.7.10



Sawasdee Bangkok สวัสดีบางกอก - ทัศนา 20.7.10



Sawasdee BKK. สวัสดีบางกอก-หลงแต่ไม่ลืม



สวัสดีขอนแก่น

เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 53 ทางลอดแยกสามเหลี่ยม ที่ขอนแก่น มีน้ำท้วมในอุโมงเนื่องจากฝนตกหนัก และท่อระบายน้ำอุดตันระบายน้ำไม่ทันทำให้การจราจรติดขัด

ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซด์ห้ามขี่ลงไปในอุโมงค์นะครับ เพราะอันตรายจากความเร็วของรถยนต์ และเป็นข้อห้ามตามกฏหมาย ผู้ที่มาจากต่างจังหวัดควรลดความเร็วเวลาลงอุโมง เพราะอุโมงจะโค้งนิดนึง และเคยเกิดอุบัติเหตุมาแล้วจากการขับด้วยความเร็ว


ทางลอดแยก ขอนแก่น (ภาพเก่า)



วันอังคารที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ดินแดนแห่งเสรีภาพ

สหรัฐอเมริกา
ดินแดนแห่งเสรีภาพ

ประเทศสหรัฐอเมริกา เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1776 (พ.ศ. 2319, 234 ปีที่แล้ว) จากความต้องการที่จะปกครองตนเองของชาวอาณานิคมบนพื้นดินอเมริกา และไม่ต้องการอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ (สหราชอาณาจักร, Britain) อีกต่อไป

พอก่อตั้งประเทศได้ ก็เกิดสงครามกลางเมืองครั้งใหญ่ ระหว่างชนชั้นปกครอง กับ ชนชั้นทาส รวมทั้งต้องต่อสู้กับชาวอินเดียนแดง ที่เป็นเจ้าของแผ่นดินอเมริกา และยึดมาเป็นของตนเอง และจนในที่สุด ประกาศเลิกทาส แล้วเกิดเป็นประเทศที่ให้ความเท่าเทียมกัน และเสรีภาพแก่ประชาชนทุกคนไม่ว่าจะเป็นชนชาติใด จึงเป็นดินแดนที่คนทั่วโลกพยายามที่จะเข้าไปตั้งรกราก โดยดูภาพสะท้อนได้จากหนังเรื่อง Men in Back ที่เป็นรื่องราวของ ตำรวจตรวจมนุษย์ต่างดาว ที่จะเข้ามาอาศัยบนโลก

Will Smith - Men In Black


อเมริกาต้องการตัดความสัมพันธ์กับประเทศแม่ของตนเอง และยังได้สร้างวัฒนธรรมใหม่ที่เป็นแบบของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น เพลงในแบบอเมริกัน เช่น Blue, Jazz, Rock and Roll สร้างกีฬารูปแบบใหม่แบบของตนเอง เช่น อเมริกันฟุตบอล, บาสเก็ตบอล, เบสบอล เป็นผู้คิด Junk Food พิซซ่า แฮมเบอร์เกอร์ และเป็นผู้สร้างระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมขึ้นมา สามารถพัฒนาการตลาดเพื่อสร้างมูลค่า (Value Added) ให้กับสินค้า โดยใช้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น รูป รส กลิ่น เสียง (Emotional) คือ อารมณ์ ความรู้สึก รสนิยม ทำให้สินค้าเป็น แฟชั่น เป็นหน้าาเป็นตาให้คนใช้ มีอรรถประโยชน์มากกว่าเพียงการใช้งานพื้นฐาน ทำไม iPhone และ Blackberry ถึงขายดี เพราะมันแสดงถึงรสนิยม เป็นเหมือนเครื่องประดับ เหมือนการมีรถ Benz หรือ BMW มันไม่ได้แค่ใช้เป็นพาหนะ แต่สร้างความเชื่อถือให้กับผู้ที่ต้องปฏิสัมพันธ์กัน ซึ่งบ้านเราเรียก กิเลส

และกระแสทุนนิยม ก็ไหลไปทั่วโลก จากประเทศที่มีอายุไม่ถึง 300 ปี มาถึงไทย เราก็ต้องมาเจอวิกฤต ต้มยำกุ้ง ในปี 40 และแล้ว ทุนนิยม ก็ไหลกลับไปที่บ้านเกิด และเกิดวิกฤต แฮมเบอร์เกอร์ บริษัท GM อายุ 101 ปี ต้องล้มละลาย ธนาคารและสถาบันการเงินต้องปิดกิจการ บริษัทอื่นๆ ก็ต้องประครองตัวแบบแสนสาหัส ประชาชนผ่อนบ้านไว้ แต่ถูกยึดไป ต้องหาที่กางเต้นเป็นที่นอน เพราะความหยิ่งผยอง แต่แพ้ภัยตัวเอง

โอบาม่า สร้างการเปลี่ยนแปลงได้เพียง การเป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรกเท่านั้น เพราะเข้ามาในช่วงวิกฤติครั้งเลวร้ายที่สุดของอเมริกา จึงไม่สามารถสร้างผลงานอะไรได้

ผมจบโท MBA (Master of Business Administration) เป็นการสืบเผ่าพันธุ์ทุนนิยม เหมือนเพาะปลาหางนกยุง ซึ่งก่อนหน้านี้ผมไม่ได้เข้าใจในแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงเลย ไร่น่าสวนผสม มันจะช่วยให้อยู่รอดได้ ดีไปกว่าการปลูกพืชเชิงเดี่ยวได้ยังไง ทำแบบพอพียงแล้วเมื่อไหร่จะรวย อะไรมันจะดีไปกว่าการได้กำไรมากๆ ความพอเพียงไม่เข้าใจ รู้จักแต่ดัชนีมาม่า เวลาไม่มีเงิน

ผมอยากไปอเมริกาซักครั้ง เพราะผมเป็น Americanism เหมือนกัน ผมชอบเพลงแบบอเมริกันหลายๆ แนว โดยเฉพาะเพลง Rock และชอบอเมริกันฟุตบอล เหมือนที่คนอื่นที่ชอบฟุตบอล

แต่ระบบการบริหารจัดการที่ดี กฎหมายที่ศักดิ์สิทธิ์ การร้องเพลงชาติด้วยความภาคภูมิใจ การให้เกียรติกัน การเชิดชูทหารผู้เสียสละ ก็เป็นเรื่องที่เอาเป็นแบบอย่างได้ ตัวอย่างในหนังเรื่อง Taking Chance เป็นเรื่องของทหารชื่อ Chance ผู้เสียชีวิตจากอิรัก ที่มีการนำร่างของเขากลับไปที่บ้านเกิด ซึ่งสร้างจากเรื่องจริง

ฉากประทับใจคือ ระหว่างทางที่รถสองคันของทหารแล่นไป รถของประชาชนที่ขับตามมา เข้าร่วมขบวนของนายทหาร Chance ด้วย เพื่อเป็นการให้เกียรติกับความเสียสละของเขา บ้านเราทหารทำร้ายกันเอง






เรากลับมาที่แถว เวียดนาม ลาว พม่า มีการปกครองแบบสังคมนิยม หรือ ปกครองด้วยรัฐบาลทหาร จึงเป็นข้อดีที่ทำให้การเมืองมีเสถียรภาพ การพัฒนาด้านเศรษฐกิจจึงมีอุปสรรคน้อยลง

เวียดนาม สร้างทุนนิยม แบบจีนที่วันนี้ จีนเป็นมหาอำนาจของโลกเจ้าใหม่ไปแล้ว หลังจากการพังทะลายของเศรษฐกิจอเมริกา มีการวางแผนเป็นอย่างดี และพัฒนาไปด้วยความไม่ประมาท คนเวียดนาม เรียนภาษาไทย พร้อมที่จะทำกิจกรรมต่างๆ กับไทย ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว หรือ การเข้ามาทำงานในไทย แบบแรงงานมีความรู้ อีกไม่นานนอกจากเราจะต้องเป็นลูกน้องฝรั่งแล้ว เราจะเป็นลูกน้องของคนเวียดนาม และตอนนี้เราก็มีคนสิงค์โปร์เป็นเจ้านายแล้ว

ทั้งคนเวียดนาม และสิงค์โปร์ ภาษาอังกฤษดีกว่าเราแน่นอน แถมเวียดนามพูดไทยได้อีก มาดูกัมพูชา เด็กขายของตามชายแดนก็พูดภาษาอังกฤษได้ ส่วนบ้านเรา จบปริญญาเอก ยังพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย

ต้องขยายความนิดนึง เพราะจะกระทบกับดอกเตอร์หลายๆ คน คือการเรียน ป.เอก กับการพูดภาษาอังกฤษไม่เกี่ยวข้องกัน ถ้าเรียนในประเทศไทย การใช้ภาษาอังกฤษได้จะอยู่ที่การฝึกฝนของแต่ละคน เราอ่านได้ ใช่ว่าเราจะพูดได้ เพราะ การฟัง พูด อ่าน เขียน เป็นคนละทักษะ เด็กเล็กๆ พูดได้ แต่เขียน อ่านยังไม่ได้ ผู้ใหญ่ที่อ่านได้ ไม่จำเป็นต้องพูดได้ ปั่นจักรยานได้ ใช่ว่าจะขับมอเตอร์ไซด์ได้ด้วย

การที่คนจบ ป.เอก จะพูดอังกฤษได้ ก็ต้องศึกษาเพิ่มเติมเอง ไม่เกี่ยวกับหลักสูตร ป.เอก นอกจากว่าจะไปเรียนในต่างประเทศ ซึ่งจำเป็นต้องสื่อสารภาษาอังกฤษได้ จึงจะเรียนสำเร็จรอดกลับมา

ถ้าเป็นแบบนี้ คนของเราจะทำงานได้แค่ในประเทศครับ การติดต่อกับต่างชาติ ก็ต้องอาศัยจ้างคนต่างชาติทำ เนื่องจากระบบการศึกษาของเรามีปัญหามาก โดยเฉพาะการสอนวิชาภาษาอังกฤษ ถึงแม้ว่าเราจะมีโรงเรียนที่เปิดหลักสูตรนานาชาติมากขึ้น แต่มันไม่ทันกับอีก 10ปี ข้างหน้านี้ บ้านเราจะขาดแคลนแรงงานที่มีความรู้ และต้องใช้คนต่างชาติเข้ามาทำงานอย่างมากในอนาคต เวียดนามเขาจึงมีการส่งสริมให้คนของเขาเรียนภาษาไทย และในภาคอุตสาหกรรมของต่างชาติ จะมีการเข้าไปตั้งฐานการผลิตที่เวียดนาม ส่วนนึงเพราะต้นทุนต่ำกว่าในไทย การเมืองมีเสถียรภาพมากกว่า อย่าง คุณวิกรม กับนิคมอมตะ ก็ได้เขาไปดำเนินการที่เวียดนามแล้ว

คือเวียดนามเขาวางแผนทุกอย่างในทุกๆ ด้านอย่างเป็นระบบ ในอีกไม่เกิน 5 ปี ข้างหน้านี้ เวียดนามจะมีทุกอย่างพร้อม ไม่ว่าจะเป็นบุคลากร เครื่องไม้เครื่องมือ และสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น สนามบินที่ใหญ่กว่า สุวรรณภูมิ รถไฟความเร็วสูง ที่กำลังก่อสร้าง การคมนาคมทุกระบบเชื่อมถึงกันหมด ไม่ใช่เพิ่งจะคิดเหมือนพี่ไทย

ศักยภาพของประเทศเราในอนาคต อาจจะสู้เวียดนามไม่ได้แล้ว ไม่ได้พูดถึง มาเลเซีย เพราะเราตามหลังเขาอยู่หลายก้าว เขามีระบบเศรษฐกิจที่ดีมาก ผลิตรถยนต์ของตัวเองได้ (Proton) และการเมืองมีเสถียรภาพ

ลาวรักษาวัฒนธรรมของตนเองไว้ได้ และจะเป็นครัวของโลกอีกแห่งหนึ่ง เพราะทรัพยากรต่างๆ ยังอุดมสมบูรณ์ ไม่ได้ถูกทำลายไปมากเหมือนไทยเรา มีกาแฟส่งออกติดอันดับโลก

อ้าว!! ไหนบอก ม.ชีวิต เป็นแนวเศรษฐกิจพอเพียง คือ เราไม่อาจจะต้านกระแสของโลกได้ ประเทศจะมีการพัฒนาไปแบบทุนนิยมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราต้องพัฒนาแบบมีการวางแผนที่ดี อย่างมีสติ ไม่ใช่มุทะลุเหมือน อเมริกา

อเมริกา เหมือนคนที่ขับรถด้วยความเร็วสูง เพราะคิดว่ารถของตนมีสมรรถนะสูง และตนเองมีเครื่องป้องกันความปลอดภัยดีพอแล้ว และสุดท้ายรถก็คว่ำ และได้รับบาดเจ็บสาหัส จากความประมาท

กลายเป็นว่าเราต้องดู เวียดนาม และลาว เป็นแบบอย่าง ดู เวียดนาม ในเรื่อง การบริหารจัดการแบบทุนนิยมอย่างเป็นระบบ ดู ลาว ในเรื่อง การใช้ทรัพยากร และการรักษาวัฒนธรรมอันเก่าแก่ ซึ่งสอดคล้องกับ ปรัชญาเศรษกิจพอเพียง

ม.ชีวิต ไม่ได้ปฏิเสธทุนนิยม ถ้าคุณต้องการเข้าสู่ธุรกิจทุนนิยม ทำอย่างมีสติ ค่อยๆทำ อย่าใจร้อน ช้าๆได้พร้าเล่มงาม ถ้าสินค้าเริ่มขายดี ก็ขยายตลาด ถ้าสินค้ามีคุณภาพ 5 ดาว แล้ว ก็จึงส่งออก ทำจากเล็กไปใหญ่ ทำจากภายในไปสู่ภายนอก

http://th.wikipedia.org/wiki/สหรัฐอเมริกา

By LU Khon Kaen

(วันนี้ใส่เต็ม Max เลย เอาทุก Shot)


Steve Vai - "I Know You're Here"


วันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ควายแสนรู้

หมู่บ้านควาย

ตั้งอยู่ที่บ้านโนนอุดม-บ้านโนนสว่าง อยู่ห่างจากอำเภอภูเวียงประมาณ 25 กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านที่มีการเลี้ยงควายและได้รับการส่งเสริมสนับสนุน จากสำนักงานปศุสัตว์ จังหวัดขอนแก่นและสำนักงานกรมปศุสัตว์ อำเภอภูเวียง เกิดกลุ่มอาชีพเลี้ยงควายของอำเภอจนมีการจัดตั้งให้เป็นหมู่บ้านอนุรักษ์ระดับเขต 4 ปี 2523 และเข้าร่วมหมู่บ้านอนุรักษ์และพัฒนาควายของกรมปศุสัตว์ และได้รับรางวัลระดับประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลนาหว้า โทร. 0 432 1 1466

ที่มา
http://www.ข้อมูลการท่องเที่ยว.com/ขอนแก่น/หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย.shtml

ใครจะพูดว่า ยังงั้นยังงี้ เหมือนควาย ไม่ได้แล้วนะครับ
เพราะอาจจะโดนฟ้องได้ พี่ควายเขาไม่ยอมแล้วนะ







ต้นกล้าข้าวในแปลงพลาสติก

พอดีเห็นในภาพข่าวท้องถิ่นของขอนแก่น เนื่องจากช่วงนี้เขื่อนอุบลรัตน์มีน้ำไม่พอ ที่จะปล่อยมาให้ชาวนาในแถบนี้

จึงได้มีการหาวิธีการเพาะต้นกล้าข้าว โดยขุดหลุม แล้วเอาพลาสติกมารองก้นหลุม และเอาดินใส่ทับลงไปบนพลาสติก เพื่อใช้เป็นแปลงต้นกล้า ซึ่งจะช่วยให้ใช้น้ำน้อยในการเพาะ ไม่ต้องใช้น้ำมากเหมือนการเพาะกล้าในแปลงนาแบบที่เคยทำ

การรดน้ำ จะรดด้วยบัวรดน้ำ หรือ ใช้สายยาง ตามสะดวก คือ รดน้ำเหมือนเราปลูกผัก ก็จะใช้น้ำไม่มากครับ เพราะมีพลาสติกรองไว้ด้านล่าง ช่วยเก็บน้ำไว้

ลองดูภาพเทียบเคียง อย่างต้นกล้าที่เขาใช้กับรถดำนา ก็ปลูกกล้าในถาดพลาสติก ครับ


By LU KK



วันอังคารที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

บ้านเรียน ณ ศิลป์



บ้านเรียน ณ ศิลป์

โรงเรียนแบบวอลดอร์ฟ อ.เมือง จ.ขอนแก่น

แนวคิดการศึกษาวอลดอร์ฟ (Waldorf Education) เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 80 ปีที่แล้วจากประเทศเยอรมัน แพร่หลายไปในทวีปยุโรปและอเมริกา ปัจจุบันมีโรงเรียนที่ใช้หลักสูตรนี้มากกว่า 1,000 แห่ง รูปแบบการจัดการศึกษาเกิดจากแนวความคิดของ ”รูดอล์ฟ สไตเนอร์” (Rudolf Steiner, 1861-1925) ผู้เสนอหลักคิดเกี่ยวกับความหมายของชีวิตมนุษย์ ในศาสตร์ที่ชื่อว่า “มนุษยปรัชญา” (Anthroposophy) ด้วยคำ 3 คำนี้ (“Waldorf Education” – “Rudolf Steiner” – “Anthroposophy”) ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้อย่างมากมายจาก Google “ศาสตร์มนุษยปรัชญา” ของสไตเนอร์สามารถสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆออกไปได้หลายแขนง ไม่ว่าจะเป็นการแพทย์(Homeophatic) การเกษตร (Biodynamic) และการศึกษา (Waldorf) เป็นต้น

การศึกษาวอลดอร์ฟมีมุมมองที่พื้นฐานของความเป็นมนุษย์อย่างเป็นองค์รวม แล้วออกแบบกระบวนการเรียนรู้เพื่อตอบสนองแนวคิดนั้น เป็นการศึกษาที่คำนึงถึงธรรมชาติที่แท้จริงของมนุษย์ในแต่ละวัย หาได้มีขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของกระแสสังคมที่เน้นการแข่งขัน หรือตอบสนองความต้องการของพ่อแม่ที่ต้องการเห็นลูกตัวเล็กๆที่มีความสามารถเทียบเท่าผู้ใหญ่ การศึกษาวอลดอร์ฟเพียงต้องการให้สิ่งที่เหมาะสมกับวัยของเด็กตามแต่ละช่วงอายุ โดยมีการแบ่งช่วงของการเรียนรู้ชีวิตออกเป็น 3 ช่วงวัย คือ แรกเกิด-7 ปี, 7-14 ปี และ 14-21 ปี แล้วจึงมาแยกย่อยลงไปในรายละเอียดของแต่ละช่วงวัยอีกทีหนึ่ง ว่าพัฒนาการในแต่ละขวบปีที่เกิดขึ้นจะมีการเปลี่ยนแปลงต่างๆทั้งทางร่างกายและจิตใจอย่างไร แล้วจึงจะได้รูปแบบการเรียนรู้ที่เหมาะสมตามมา

สำหรับวัย แรกเกิด - 7 ปีนั้น เด็กจะเรียนรู้โลกผ่านร่างกาย โดยการเฝ้าสังเกต การเลียนแบบ และการทำซ้ำ ดังนั้นเรื่องบางเรื่องที่ดูน่าเบื่อสำหรับผู้ใหญ่ กลับเป็นประสบการณ์การเรียนรู้อันมีค่าสำหรับเด็ก เด็กจะต้องการเวลาในการเรียนรู้เรื่องราวต่างๆนานพอสมควรกว่าที่เขาจะสามารถย่อยประสบการณ์ต่างๆ ก่อนที่ความรู้นั้นจะประทับเข้าไปในตัวเด็ก “การทำซ้ำ” ในเรื่องที่พิจารณาแล้วว่าเหมาะสมผ่านตัวอย่างจากครูผู้มีประสบการณ์ในการมองเด็ก จะเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่สามารถสร้างความสุข และความประทับใจต่อตัวเด็กได้ เพียงเท่านี้ก็พอแล้วสำหรับความต้องการในวัยนี้ เพียงเท่านี้ก็สามารถสร้างกระบวนการเรียนรู้ที่จะปลูกฝังคุณธรรม และจิตสำนึกที่ดี ผ่านวินัยที่ไม่ใช่กรอบหรือกฏเกณฑ์บังคับแต่เป็นการปฏิบัติจริงผ่านท่วงทำนองและจังหวะที่เหมาะสมลงตัวอยู่เป็นประจำทุกๆวัน

ที่มา: http://www.oknation.net/blog/nasilp


เพื่อนผม มีลูกสองคน 4 ขวบ กับ 2 ขวบ ให้ลูกไปเรียนที่ บ้าน ณ ศิลป์ เล่าว่า ไม่อยากให้ลูกต้องเรียนพิเศษอะไรมากมาย เหมือนที่ลูกคนอื่นที่เขาทำกัน

ผมถามว่า แล้วจะให้เรียนถึงชั้นไหน ถึงจะให้ไปเรียนแบบหลักสูตรปกติ

เพื่อนบอก ก็เรียนไปเรื่อยๆ ก่อน เพราะลูกยังเล็กอยู่

เพื่อนอีกคนพูดว่า ถ้าเขามีลูกคงให้เรียนแบบหลักสูตรปกติ เพราะกลัวลูกมีเพื่อนน้อย กลัวลูกไม่มีเครือข่าย (Connection)

ผมเห็นมีคนเสริชหา โรงเรียนทางเลือก กันพอสมควร ก็ลองโทรไปตามเบอร์โทร ในภาพด้านบนนะครับ

By LU Khon Kaen


ภาพ เด็กๆ ทำนา
http://webboard.nasilp.com/index.php?topic=26.0







คืนสู่รากเหง้า


คืนสู่รากเหง้า

ผม (ผู้เขียน) เคยได้ร่วมงานกับ คุณปุ้ม พงษ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว ณ Pub แห่งหนึ่งแถว สุขุมวิท ในฐานะ ผู้ควบคุมเสียง (Sound Engineer) ในการแสดงสดของวง Dynamic ซึ่งคุณปุ้ม เป็นมือคีบอร์ด มีคุณสุรสี อิทธิกุล และ คุณชาตรี คงสุวรรณ เป็นมือกีตาร์ เล่นเพลงในแนว Rock ในช่วงปี 1970-1980 ผมเป็น Sound Man ประจำ Pub แห่งนั้น มีวงดนตรีหลายวงที่เล่นที่นี้ เช่น วง Isn’t, วง Beatles Nut ซึ่งส่วนมากจะเป็นนักดนตรีที่เป็น Producer ในวงการเพลงบ้านเรา

ณ วันนั้น คุณปุ้ม มีบุคลิกแบบนักดนตรี Rock ตามแนวเพลงที่เล่น และในวันนี้ผมได้เห็นเขาในทีวี ช่องทีวีไทย เขาไว้เคราและใส่ชุดเหมือนชาวเขาทางเหนือ พร้อมกับได้สาธิตการเล่น ซึง เครื่องสายของทางเหนือ ที่มีการดัดแปลงให้ใช้งานง่ายขึ้น บุคลิกเปลี่ยนไปคนละขั้วเลย

คุณปุ้ม เล่าที่มาที่ไปในรายการทีวี ในโครงการ Siamese Project - Genome Music ที่ได้ออกเดินทางไปในหลายประเทศในเอเชีย เพื่อทำสารคดีเกี่ยวกับเพลงของชาวเอเชีย ซึ่งมีข้อมูลที่ถูกต้องน้อยมาก เพราะโดยมากฝรั่งเป็นคนรวบรวมข้อมูล และมีบางส่วนผิดเพี้ยนไปจากความจริง

อย่างเช่น ดนตรีของอินโดนีเซีย มีบันไดเสียง (Scale) แบบ 33 เสียง ซึ่งดนตรีสากลแบบยุโรป (Classical Music) ไม่สามารถเล่นเสียงแบบอินโดฯ ได้ เพราะดนตรียุโรปมีเพียง 12 เสียง คุณปุ้มเล่า

คุณปุ้ม เล่นดนตรีสากลแบบอเมริกัน (American Music) มาตลอดชีวิต ด้วยความที่สนใจดนตรีพื้นบ้านเป็นทุนเดิมทำให้เกิดโครงการดังกล่าวขึ้น ซึ่งแนวคิดของ ม.ชีวิต เราใช้คำว่า คืนสู่รากเหง้า เพื่อสืบค้นความเป็นมาของบรรพบุรุษ หรือเพื่อค้นหาคำตอบอะไรบางอย่าง

สำหรับ ม.ชีวิต เราต้องการให้เห็นความสำคัญของทรัพยากรในท้องถิ่นของตนเอง ให้นำมาใช้ให้เป็นประโยชน์กับสังคมในท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม โบราณสถาน โบราณวัตถุ วิถีชีวิต การใช้ชีวิตของปู่ย่าตายาย ที่ได้ถูกกลั่นกรองมาแล้วจากชีวิตจริง ซึ่งจะช่วยให้เรา กินเป็นอยู่เป็น คิดเป็นทำเป็น รู้จักการใช้ชีวิตอย่างมีสมดุล ไม่มากไปไม่น้อยไป ไม่เบียดเบียนผู้อื่นและธรรมชาติ รู้จักการอยู้ร่ามกัน ช่วยเหลือกัน

โครงการ Genome Music
http://www.siameseproject.com/

ข้อมูลเพิ่มเติม


By LU Khon Kaen


------------ดนตรีของมาเลเซีย




วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ผมจะเป็นคนดี

ผมจะเป็นคนดี

ผมได้อ่านหนังสือเล่มนี้เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว ที่ได้มาจากเพื่อน ที่เอามาให้จากงานบุญของญาติอีกที คือ ญาติซื้อหนังสือเล่มนี้มาแจกแขกในงาน ตอนแรกนึงว่าเป็นหนังสือแจกฟรี

ตอนทีได้มาก็รับไว้ยังงั้นเอง เพื่อนอุตส่าห์เอามาให้ ไม่ได้สนใจจะอ่าน เล่มก็หนาด้วย แล้วผมไม่ชอบอ่านนิยาย (ตอนแรกนึงว่าเป็นนิยาย) ชื่อก็ ทำไมต้องเป็นคนดี แสดงว่าเคยเป็นคนไม่ดีหรือยังไง และตอนนั้นก็ไม่รู้จักด้วยว่า คุณวิกรม กรมดิษฐ์ เป็นใคร

มีช่วงที่ว่างวันนึง เลยหยิบมาเปิดๆ ดู เปิดเจอหน้าไหนก็อ่านหน้านั้น ทำแบบนี้อยู่หลายวัน จนอยากรู้ว่าตอนที่อ่านอยู่มันดำเนินมายังไง จึงต้องกลับไปอ่านตั้งแต่แรก จนในที่สุดเรื่องตอนท้าย กับตอนต้นก็มาบรรจบกัน เหมือนดูหนังที่ตัดต่อแบบ ย้อนต้น คือ เอาเรื่องตอนท้ายมาเล่าก่อน ใช้เวลาไม่กี่วันก็อ่านจบ

เนื้อเรื่องน่าติดตามมาก เหมือนในละครทีวีเลย ถอดจากหนังสือ Shot ต่อ Shot เลย

ผมเข้าใจเอาว่า วงการธุรกิจ มันไม่มีใครยอมใคร ใครดีใครได้ คุณวิกรม ต้องเจอทั้งปัญหาครอบครัวและปัญหาในเรื่องงาน ไม่ง่ายเลยที่จะทำทุกเรื่องให้มันถูกต้องทั้งหมด

หนังสือเล่มนี้ขายได้มากกว่า 1 ล้านเล่ม พิมพ์จนต้องเปลี่ยนปกใหม่ หน้าปกนี้เป็นเล่มที่ผมอ่าน

ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ ผมกับแม่จะต้องดูละครเรื่องนี้ ทั้งที่โดยปกติ ผมกับแม่จะไม่ดูละคร ณ วันนี้เรื่องดำเนินมาได้สักตอนกลางๆ เรื่องแล้ว ละครใช้ชื่อ ไฟอมตะ


-------------บ้านคุณวิกรม ที่เขาใหญ่
... ...


นักศึกษาปรึกษากันในการดำเนินโครงงานสุขภาพในชุมชนของตนเอง ก่อนที่จะไปดูพื้นที่ศูนย์เรียนรู้ฯ ที่ใหม่



เพิ่มเติมเรื่องกบ

วันนี้พานักศึกษาไปดูการเลี้ยงกบ ที่เคยไปคราวที่แล้ว นักศึกษาคนนึงได้ขอซื้อกบ 2 กิโล กิโลละ 100 บาท เพื่อเอาไปเลี้ยงเพิ่มจากที่เลี้ยงอยู่แล้ว โดยการเลี้ยงในกระชังในคลอง เหมือนเลี้ยงปลาในกระชัง ซึ่งกบของบ้านนี้จะตัวสีอ่อนๆ สีน่ากินกว่า ไม่ตัวดำเหมือนที่นักศึกษาคนนี้เลี้ยงในกระชัง

ถ้าเป็นกบตัวเล็กที่เพิ่งจะเปลี่ยนจากลูกอ๊อด เขาจะขายตัวละ 1 บาท และตัวใหญ่ 3 เดือนที่ซื้อไป ขอให้เขาเลือกตัวผู้ ตัวเมีย ที่สมบูรณ์ เพื่อเอาไปเลี้ยงต่อเป็นพ่อแม่พันธุ์

เราก็เลยสรุปกันเอาเองว่า การเลี้ยงกบในกระชัง น่าจะเหมาะกับศูนย์เรียนรู้ของเรา เพราะเราไม่มีคนดูแลตลอดเวลา ที่จะเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ แบบการเลี้ยงในบ่อดิน

-การเลี้ยงกบในบ่อดิน

By LU Khon Kaen


-----------ภาพกบในกระชัง จาก Google นะครับ ของนักศึกษา ต้องให้เขาถ่ายมาให้คราวหน้า

--------เนินที่ถมขึ้นใหม่นี้ จะใช้เป็นออฟฟิตในอนาคต
--------พื้นที่เน้นการเก็บกักน้ำ เพราะปีนี้แล้งมาก ตามที่ได้ทราบกันจากทั่วประเทศ

--------ปลูกพืชในหลุมพอเพียง คือ ปลูกกล้วย แล้วปลูกผักรอบต้นกล้วย




นักศึกษามาดูความคืบหน้าในการปรับพื้นที่ของศูนย์เรียนรู้ ที่จะใช้เป็นห้องเรียนห้องใหม่ แบบหลังคามุงจาก


คลิปวีดีโอ โปรโมท ไฟอมตะ


ไฟอมตะ

วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

มาเที่ยวขอนแก่น

-----------เจดีย์ 9 ชั้น วัดหนองแวง ริมบึงแก่นนคร

---------เขื่อนอุบลรัตน์



เที่ยวขอนแก่น

ถ้ามาจากโคราชบนถนนมิตรภาพ เริ่มที่ อ.เปือยน้อย มี กู่เปือยน้อย จากถนนมิตรภาพ เลี้ยวขวาเข้าถนน อ.บ้านไผ่-บรบือ ประมาณ 40 ก.ม. ถึง อ.เปือยน้อย

กลับมาที่ถนนหมายเลข 2 ถ.มิตรภาพ เลี้ยวซ้ายเข้าถนน 229 ไป อ.ชนบท และไปดูหมู่บ้านเต่า ที่ อ.มัญจาคีรี

ขึ้นไปตามถนนเส้นหลัก เข้าสูถนนสาย 12 จะเข้า อ.หนองเรือ ไปตามถนนเส้นนี้ เลี้ยวขวาเข้าไปดู ไดโนเสาร์ ที่ อ.ภูเวียง ย้อยกลับออกมา เข้า อ.ชุมแพ ชม เมืองโบราณโนนเมือง

กลับเข้า อ.เมือง ไปดู กู่ประภาชัย และ ไหว้พระธาตุขามแก่น ประมาณ 30 ก.ม. แล้วเข้า อ.กระนวน ไปเยี่ยมชม หมู่บ้านงูจงอาง ที่อยู่บนถนน กระนวน-น้ำพอง

ถ้ามีเวลา ไปดูไดโนเสาร์ที่ จ.กาฬสินธุ์ ที่เพิ่งจะขุดพบใหม่ ประมาณ 70 ก.ม. จาก อ.เมืองขอนแก่น

จะกลับเข้ามานอนที่ อ.เมือง หรือ จะไปพักที่เขื่อนอุบลรัตน์ก็ได้ครับ ประมาณ 60 ก.ม. จาก อ.เมือง

ดูตามแผนที่ และจุดสีแดง ที่ทำเครื่องหมายไว้ครับ

ที่ขอนแก่นมีร้านอาหารมากมายให้เลือกทุกรูปแบบ ส้มตำ ไก้ย่าง อาหารจีน อาหารฝรั่ง ร้านกาแฟ ไปที่บึงแก่นนคร มีทุกรูปแบบ ครับ หรือ จะหลบร้อนไปที่ เซ็นทรัล ก็ได้

โรงแรมที่พัก มีตั้งแต่ 250, 350, 600 บาท แล้วแต่จะเลือก จะเป็นอพาร์ทเมนท์รายวัน โรงแรมบูติก รีสอร์ท มีเพียงพอตามต้องการ

สถานบันเทิงยามค่ำคืน ถ้าตีสองแล้ว ยังอยากต่อ ก็ถามพนักงานแถวนั้นดูว่า ไปที่ไหนจะต่อได้

Welcome to Khon Kaen




By LU KK


----------ถนนคนเดิน ขอนแก่น ทุกวันเสาร์ ที่ศาลากลางจังหวัด

--------ร้านอาหารสไมล์ ริมบึงแก่นนคร

----------U Bar และ Rad
---------โรงแรมราชาวดี ที่ สนามบินขอนแก่น
โรงแรมแคตัส ใน อ.เมือง ถ.ประชาสโมสร

วันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

หมู่บ้านเต่า หมู่บ้านงู

หมู่บ้านเต่า
บ้านกอก อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น

หมู่บ้านเต่า ตั้งอยู่ที่บ้านกอก อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ห่างจะอำเภอเมืองประมาณ ๕๐ กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านที่มีเต่าเพ็ก(เต่าเหลือง) ทั่วหมู่บ้าน

ชาวบ้านผู้เฒ่าผู้แก่เชื่อกันว่า เจ้าคุณปู่เป็นชายแก่รูปร่างสูงใหญ่ นุ่งขาวห่มขาวมีเต่าเพ็ก (เต่าเหลือง) เป็นบริวาร มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า เต่าเพ็กที่บ้านกอกมีอายุยืนยาวสืบเชื้อสายกันมาพร้อมๆ กับการก่อตั้งบ้านกอก เมื่อประมาณพ.ศ.๒๓๑๐ เต่าเพ็กจะรวมกันอยู่มาก ในบริเวณที่เรียกว่าศาลเจ้าคุณปู่ (ดอนเต่า) ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ ๔ ไร่ ในบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อมเหศักดิ์ ๒ ศาล

---ที่มา

หมู่บ้านงูจงอาง
อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น

บ้านโคกสง่า ต.ทรายมูล ชาวบ้านโคกสง่าแต่เดิมมีอาชีพขายยาสมุนไพรควบคู่กับ การทำนามาแต่รุ่นปู่ย่าตายาย การขายยาสมุนไพรในสมัยก่อนต้องเดินเท้าไปเร่ขายยาตามหมู่บ้านต่างๆ ด้วยความยากลำบาก แต่เมื่อปีพ.ศ. 2494 พ่อใหญ่เคน ยงลา หมอยาบ้านโคกสง่าจึงได้คิดหางูเห่า มาแสดง เพื่อเป็นการดึงดูดคนมาดู แทนที่จะต้องเดินไปขายยาในทุกๆหมู่บ้านเช่นเคย ปรากฏว่า การแสดงประสบความสำเร็จสามารถเรียกคนมาดูได้มากพอสมควร แต่เนื่องจากงูเห่านั้นมีอันตราย มากสามารถพ่นพิษได้ไกลถึง 2 เมตรพ่อใหญ่จึงเปลี่ยนมาใช้งูจงอางแสดงแทนและถ่ายทอดวิชาแสดงงูให้คนในหมู่บ้าน เมื่อว่าง เว้นจากการเกษตรชาวบ้านจะรวมกลุ่มเดินทาง ออกเร่แสดงงู เพื่อขายยาสมุนไพร ส่วนการแสดงที่หมู่บ้าน นั้นจะจัดขึ้นบริเวณลานวัดศรีธรรมา และรอบๆบริเวณ ก็จะมีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับงูจงอาง รวมทั้งมี โรงเรือนเพาะเลี้ยงงูจงอางอยู่ด้วย

---ที่มา



สมัครสมาชิกฟรี
1loveshopping

วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ปรากฏการณ์หนังสือ A Day

ปรากฎการณ์หนังสือ A Day

วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ เริ่มเล่าเรื่องที่มาของการทำหนังสือ ว่า คุณโน๊ต อุดม แต้พานิชย์ เล่าให้เขาฟังว่า

มีชายคนนึงในอพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่ง อยากจะทำหนังสือของตัวเอง เลยเริ่มทำหนังสือแบบที่ตัวเองอยากทำขึ้นมา แล้วเอาไปแจกไว้ที่หน้าห้องของคนในอพาร์ทเมนท์ และได้ทำเล่มต่อๆ มา เสร็จก็เอาไปแจกเช่นเดิม จนในที่สุดไม่มีเงินทุนที่จะทำต่อ จึงได้เขียนจนหมายเอาไปเสียบไว้หน้าห้องอย่างที่เคยทำ

ข้อความในจดหมาย ก็ได้บอกกับผู้อ่านว่า หนังสือที่คุณได้อ่านอยู่เป็นประจำนั้น ผมใช้ทุนส่วนตัวทำ มาถึงวันนี้ผมไม่สามารถทำต่อได้ เนื่องจากเงินทุนของผมไม่พอที่จะทำต่อแล้ว ถ้าท่านเห็นว่าหนังสือของผมยังน่าสนใจ น่าอ่านอยู่ อยากจะขอรบกวนท่านได้บริจาคเงินให้ผม เพื่อได้ทำหนังสือต่อไป

คุณวงศ์ทนง ได้ฟังเรื่องเล่านั้น ก็เกิดแรงบันดาลใจที่จะทำหนังสือของตัวเองแบบนั้นบ้าง จึงได้เริ่มทำหนังสือเล่มแรกของตัวเองออกมาเช่นกัน และได้ส่งหนังสือของตนเองไปทางไปรษณีย์ พร้อมกับแนบจดหมายไปด้วย โดยเสนอให้ผู้รับได้ร่วมทุนและซื้อหุ้นของหนังสือเล่มดังกล่าว เขาใช้เวลาอยู่พอสมควร พี่สาวก็บอก “มันไปไม่รอดหรอก”

จนในที่สุดเขาได้รับเงินเพื่อร่วมทุนทำหนังสือมาประมาณ 1 ล้านบาท อย่างไม่น่าเชื่อ และเกิดเป็นหนังสือ A Day ขึ้นมา และจนถึงวันนี้เข้าปีที่ 10 กับ ฉบับที่ 118

“ผมชอบความล้มเหลว อยากจะเจอมัน เพราะมันทำให้ได้เรียนรู้ชีวิต” (ประมาณนี้) เป็นประโยคที่คุณไม่น่าจะเคยได้ยินมาก่อน ซึ่งแสดงบุคลิกเฉพาะตัวของคุณวงศ์ทนง

ที่มา: รายการ ชีวิตคือการลงทุน จาก Money Channel


หนังสือ A Day เป็นปรากฏการณ์หนึ่งในวงการหนังสือ ที่เกิดขึ้นไม่ง่ายนักในเมืองไทย

การทำอะไรที่ตนเองอยากจะทำ รักที่จะทำ มันเป็นแรงบันดาลใจที่ออกมาจากข้างใน

“การเปลี่ยนแปลงที่ดีมาจากข้างใน ไม่ใช่เพราะใครสั่งหรือบังคับ เป็นอะไรที่ ระเบิดออกมาจากข้างใน
-----------พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

จากแนวคิดนี้ ม.ชีวิต ได้นำมาผนวกกับ แนวคิด การเปลี่ยนกระบวนทัศน์ หรือ Paradigm Shift

เปลี่ยนจากในไปสู่นอก คือ เปลี่ยนจากจิตสำนึกไปสู่พฤติกรรม

เปลี่ยนวิธีคิด วิธีปฏิบัติ วิธีให้คุณค่า เปลี่ยนการมองโลก มองชีวิต

By LU Khon Kean




http://th.wikipedia.org/wiki/วงศ์ทนง_ชัยณรงค์สิงห์

วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ เกิดที่ ธนบุรี กรุงเทพมหานคร จบการศึกษา จากคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง นิตยสารอะเดย์ (A Day) ร่วมกับ นิติพัฒน์ สุขสวย และ ภาสกร ประมูลวงศ์ ปัจจุบันเป็นบรรณาธิการอำนวยการ นิตยสารอะเดย์ นิตยสาร Hamburgerนิตยสาร Knock Knock และบรรณาธิการที่ปรึกษา



วันอังคารที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

The Blind Side


The Blind Side
ด้านบอด ที่สร้างความสว่าง

การให้ของบ้านเรา เช่น การให้ทาน การบิณฑบาต เป็นการลดความตระหนี่

การให้แบบแนวคิดพอเพียง คือ การช่วยเหลือเกื้อกูลกัน การมีน้ำใจให้กัน

Michael Oher เด็กผิวสีร่างยักษ์ พ่อนักเลงเสียชีวิต และแม่ติดยา ได้รับการอุปการะจาก ครอบครัวผิวขาวมีฐานะ มีลูกสาวและลูกชายอย่างละคน และดูเหมือนพวกเขาจะเข้ากันได้ดี

การให้ในหนังเรื่องนี้ เป็นการให้โอกาสกับเด็กผิวสีที่บ้านแตก ให้เขาได้มีเตียงนอน (เขาไม่เคยมีเตียงนอน) ได้เรียนโรงเรียนดีๆ ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่คือ มันเป็นโรงเรียนของคนผิวขาว เพราะต้องเรียนที่เดียวกับน้องบุญธรรมสองคน ได้เข้าทีมอเมริกันฟุตบอล ซึ่งเป็นโอกาสที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา

เขาไม่เคยเล่นอเมริกันฟุตบอลมาก่อน เมื่อเข้าทีมจึงยังไม่เข้าใจเกมส์มากนัก โค้ชพยายามที่จะให้เขาเป็นตัวจริง แต่เขายังเล่นไม่ได้ดี ซึ่งจะไม่ได้ลงเป็นตัวจริง แม่เขาเห็นท่าไม่ดี จึงได้บอกกับเขาว่า "จงป้องกัน ตัวขว้าง (Quarterback) และ ตัววิ่ง เหมือนปกป้องคนในครอบครัว" หลังจากนั้นเขาก็เล่นได้ดี และได้ลงเป็นตัวจริง

Blind Side ในที่นี้หมายถึง ด้ายช้ายมือของ QB ที่ถนัดขว้างมือขวา เขาจะมองหา ตัวรับลูก ทางด้านขวา และด้านซ้ายเขาจะไม่ได้มอง จึงเรียกว่า ด้านบอด ซึ่งจะมีผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามเข้ามารวบตัว QB, ไมเคิล เล่นตำแหน่ง ตัวป้องกันด้านซ้าย (Left Tackle) คือ ป้องกันด้านบอดให้กับ QB

ผลงานของเขาดีมากจน ทีมระดับมหาวิทยาลัยติดต่อขอตัวไว้ล่วงหน้า ในการเข้าเรียนระดับมหา’ลัย กว่า 20 ทีม จนในที่สุดเขาเลือกทีม Mississippi University

มีเจ้าหน้าที่ มาสอบสวนว่า ไมเคิล เลือก Mississippi เพราะเป็นความตั้งใจของพ่อแม่บุญธรรม ที่พยายามให้เขาเลือก Mississippi โดยที่ ไมเคิล ต้องการโดยสมัครใจหรือไม่

พ่อแม่บุญธรรม และครูสอนพิเศษของเขาเป็นศิษย์เก่าของ Mississippi และแม่ผิวขาวของเขาไม่ชอบทีม เทนแนสซี แต่ไมเคิล เกิดที่เมืองเทนเนสซี

การให้จากแม่ผิวขาว เปลี่ยนแปลงชีวิตของลูกชายผิวสี ยิ่งกว่าเปลี่ยนดำเป็นขาวเสียอีก

หนังเรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริง Michael Oher เล่นให้กับทีมระดับอาชีพ Baltimore Ravens ซึ่งเคยได้แชมป์อเมริกันฟุตบอลปี 2000 เป็น Super Bowl ครั้งที่ 35

คนผิวขาวกับผิวดำ ยังเป็นครอบครัวเดียวกันได้

ทำไมคนผิวเหลืองด้วยกันของบ้านเรา ต้องเผาบ้านเผาเมืองกันเองด้วย

ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ Sandra Bullock ได้รับรางวัลออสก้าและ Golden Globe ปีล่าสุด ดารานำหญิงยอดเยี่ยม เป็นครั้งแรกจากการอยู่ในวงการมาเป็นสิบปี และเคยถูกดูแคลนว่า เกาะ คีนู รีฟ ดัง จากเรื่อง Speed

By LU Khon Kaen




-------ภาพครอบครัวในชีวิตจริงของ ไมเคิล


The Blind Side